Haier ครองอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมในรายชื่อ 50 แบรนด์จีนระดับโลกประจำปี 2568 และรักษาตำแหน่งในท็อป 10 ได้ 9 ปีติดต่อกัน

หลิงสุ่ย, จีน, 20 มิถุนายน 2568 /PRNewswire/ — เป็นอีกครั้งที่ Haier สามารถครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในหมวดอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในรายชื่อ 50 แบรนด์จีนระดับโลกประจำปี 2568 (Top 50 2025 Chinese Global Brand Builders List) ซึ่งเผยแพร่ร่วมกันโดย Google และ Kantar BrandZ โดยนับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ Haier เป็นผู้นำในหมวดหมู่นี้ และเป็นปีที่ 9 ติดต่อกันที่แบรนด์ติดอันดับท็อป 10 ของแบรนด์จีนระดับโลก ตอกย้ำอิทธิพลของแบรนด์ในระดับสากลได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ รายชื่อ 50 แบรนด์จีนระดับโลกดังกล่าวถือว่าเป็นหนึ่งในระบบประเมินมูลค่าแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ซึ่งครอบคลุม 11 ตลาดหลักทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และอินเดีย โดยได้ประเมินแบรนด์ต่าง ๆ ใน 15 หมวดหมู่หลัก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค และยานยนต์ การจัดอันดับดังกล่าวอ้างอิงจากระเบียบวิธีที่มีประสิทธิภาพซึ่งผสานรวม Google Surveys, Google Search Index และฐานข้อมูล BrandZ ของ Kantar ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ความสำเร็จระดับโลกของ Haier เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์นับเป็นเวลาหลายทศวรรษ ที่มีต่อการเติบโตระยะยาวและการสร้างแบรนด์ของตนเองอย่างเป็นอิสระ ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1990 แทนที่จะเน้นการส่งออกแบบ OEM เหมือนผู้ผลิตรายอื่น Haier กลับเลือกเดินเส้นทางที่แตกต่างออกไป โดยยืนหยัดในการพัฒนาแบรนด์ของตนเองและบุกตลาดที่เติบโตเต็มที่ เช่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ก่อนจะขยายไปยังตลาดที่กำลังพัฒนา เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เส้นทางธุรกิจดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการนำกำไรกลับมาลงทุนใหม่และการเติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้ Haier สามารถพึ่งพาตนเองทางการเงินในตลาดต่างประเทศได้สำเร็จภายในปี 2559

เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว Haier จึงได้วางกลยุทธ์ "3-in-1" แบบเชื่อมโยงทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วยการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการตลาดในท้องถิ่น เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งานในแต่ละภูมิภาคได้อย่างแม่นยำ ตัวอย่างเช่น จากปัญหาการขาดแคลนพลังงานและราคาพลังงานสูงในยุโรป บริษัทได้เปิดตัวเครื่องซักผ้า Haier X11 ที่มาพร้อมฟีเจอร์เทคโนโลยีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความสามารถประหยัดพลังงานขั้นสูง ส่งผลให้สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 60% เมื่อเทียบกับมาตรฐาน A-class ที่เข้มงวดของยุโรป

ตลอดเส้นทางการขยายธุรกิจระดับโลก Haier ยังได้จับมือเป็นพันธมิตรกับการแข่งทัวร์นาเมนต์เทนนิสชื่อดังระดับโลกหลายรายการ เช่น Roland-Garros, ATP Tour, Australian Open และ China Open โดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญาด้านกีฬาระดับพรีเมียมเหล่านี้เป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อเข้าถึงแฟนกีฬาทั่วโลกและผู้บริโภคกลุ่มไลฟ์สไตล์ระดับสูง การร่วมมือเหล่านี้ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ Haier ให้เป็น "นวัตกรรมล้ำสมัย" และ "ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม" ในสายตาของผู้บริโภคทั่วโลก

ในปี 2567 Haier Group รายงานว่ามีรายได้ทั่วโลกรวม 5.59 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรรวมทั่วโลกอยู่ที่ 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในปัจจุบัน รายได้จากตลาดต่างประเทศของ Haier Smart Home คิดเป็นมากกว่า 50% ของรายได้รวม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานะระดับโลกที่มั่นคง ในฐานะหนึ่งในบริษัทจีนรายแรก ๆ ที่สร้างแบรนด์ระดับโลกได้สำเร็จ Haier ได้รับการจัดอันดับเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลักอันดับ 1 ติดต่อกัน 16 ปี จากการจัดอันดับของ Euromonitor ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบในการแข่งขันระดับโลกที่แข็งแกร่งและยั่งยืนของแบรนด์

จนถึงปัจจุบัน Haier ได้ขยายการดำเนินธุรกิจไปยังกว่า 200 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก โดยครองตำแหน่งผู้นำตลาดในหลายประเทศที่สำคัญ รวมถึงจีน สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์

ในยุโรป Haier ยังคงเป็นผู้นำในตลาดหลักหลายแห่ง ส่วนในญี่ปุ่นก็ครองอันดับ 1 ในหมวดตู้เย็น เมื่อรวมส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ Haier และ AQUA ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Haier ครองส่วนแบ่งตลาดรวมอันดับ 1 ในประเทศไทย Haier คว้าอันดับ 1 ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านขนาดใหญ่ ตู้แช่แข็งแนวนอน และเครื่องปรับอากาศ ส่วนในเวียดนาม Haier ครองอันดับ 1 ทั้งในหมวดตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ขณะที่ในมาเลเซีย Haier เป็นผู้นำในหมวดเครื่องปรับอากาศภายในบ้านและตู้แช่แข็งแนวนอน แบรนด์ยังติดอันดับท็อป 3 ใน 9 ตลาดหลักอย่างเช่น อินเดียและอิตาลี และติดอันดับท็อป 5 ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงสหราชอาณาจักรและฟิลิปปินส์

ด้วยความมุ่งมั่นระยะยาวอย่างไม่เปลี่ยนแปลงต่อกลยุทธ์ "3-in-1" ของ Haier ซึ่งผสานแนวทางการพัฒนาแบบปรับตามท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพสูงเข้ากับการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก