Haier สานต่อความร่วมมือกับ Roland-Garros ก้าวสู่ปีที่สาม ผนึกกำลังตอกย้ำคุณค่าแห่งความเป็นเลิศ

ปารีส, 6 มิถุนายน 2568 /PRNewswire/ — การแข่งขันเทนนิส Roland-Garros (French Open) ประจำปี 2568 กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ คอร์ตดินแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของปารีสก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยความดุเดือดและงดงามตามแบบฉบับของรายการแกรนด์สแลมอันทรงเกียรตินี้ โดยในหัวใจสำคัญของมหกรรมเทนนิสอันยิ่งใหญ่นี้ Haier ก็ขอเฉลิมฉลองความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Roland-Garros ที่ก้าวเข้าสู่ปีที่สาม นับตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 2566

ความร่วมมือที่ยั่งยืนนี้สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นที่มีร่วมกันในเรื่องความเป็นเลิศ นวัตกรรม และความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นคุณค่าที่ไม่ได้มีแค่ในสนามแข่งเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระดับโลกของ Haier ในการมอบการใช้ชีวิตระดับพรีเมียมอีกด้วย

หลอมรวมความแข็งแกร่งและสง่างาม: เส้นทางสู่ความเป็นเลิศที่ก้าวไปพร้อมกัน

แม้ทุกการแข่งขันแกรนด์สแลมจะทดสอบความมุ่งมั่นและทักษะของนักกีฬา แต่ Roland-Garros นั้นแตกต่างออกไป เพราะต้องอาศัยทั้งชั้นเชิง ความยืดหยุ่น และความอดทนบนคอร์ตดิน เช่นเดียวกับ Haier ที่เริ่มต้นเส้นทางสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลกตั้งแต่ปี 2533 โดยมุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้อมาเป็นเวลาถึง 25 ปี เพื่อให้สามารถสร้างสมดุลทางการเงินในตลาดต่างประเทศได้ด้วยตนเอง ซึ่งสะท้อนถึงความอดทนและวิสัยทัศน์ระยะยาวที่หล่อหลอมทั้งวงการกีฬาและโลกธุรกิจ

นอกเหนือจากความทรหดอดทนแล้ว Roland-Garros ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศและมาตรฐานระดับโลก ในขณะที่ Haier ก็ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะแบรนด์ระดับไฮเอนด์ชั้นนำในยุโรป ทั้งสองจึงเป็นเสมือนพลังที่ผสานรวมความเพียรพยายามและความเหนือชั้นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวบนเวทีโลก

เมื่อมรดกผสานนวัตกรรมล้ำสมัย: Haier กับการรุกตลาดพรีเมียมในฝรั่งเศส

ในยุคที่ทั่วโลกกำลังเร่งเดินหน้าสู่นวัตกรรมอัจฉริยะและยั่งยืน การประชุม AI Action Summit ประจำปี 2568 ที่กรุงปารีส คือตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องความมุ่งมั่นระดับสากลในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ครอบคลุม ประหยัดพลังงาน และให้ความสำคัญกับมนุษย์ ซึ่งในบริบทนี้ Haier ยังคงเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง

ในฝรั่งเศสนั้น เครื่องซักผ้า Langjing X11 ของ Haier ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นนี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยประหยัดพลังงานเหนือกว่ามาตรฐาน A-class อันเข้มงวดของยุโรปได้มากถึง 60% ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญท่ามกลางความกังวลด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ด้วยราคาที่อยู่ในกลุ่มพรีเมียม (โดยมีดัชนีราคาอยู่ที่ 275 ในโปแลนด์ และ 375 ในสหราชอาณาจักร) Langjing X11 จึงตอกย้ำภาพลักษณ์ของ Haier ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2567 Haier ยังสร้างการรับรู้แบรนด์ในฝรั่งเศสได้สูงถึง 47% ซึ่งสะท้อนถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศอย่างแท้จริง

Haier กับกลยุทธ์ขยายธุรกิจในยุโรป: หยั่งรากลึก สร้างความเป็นเลิศให้เข้ากับท้องถิ่น

ความสำเร็จของ Haier ในฝรั่งเศส เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นที่มีมาอย่างยาวนานในการเจาะตลาดและขยายธุรกิจทั่วทั้งยุโรป โดยนับตั้งแต่บุกตลาดเยอรมนีในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 Haier ก็ได้สร้างฐานที่มั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วทวีป ด้วยการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมใหม่ ๆ และความต้องการของผู้ใช้งานมาโดยตลอด

การเติบโตของ Haier ในยุโรปมีหัวใจสำคัญอยู่ที่กลยุทธ์แบบ 3-in-1 (การวิจัยและพัฒนา การผลิต และการตลาดที่เน้นความเป็นท้องถิ่น) ซึ่งทำให้แบรนด์ตอบสนองความต้องการเฉพาะพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ในตลาดยุโรปที่เครื่องปรับอากาศเจาะตลาดได้ไม่ถึง 5% Haier ก็ได้นำเสนอโซลูชันเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะที่ติดตั้งง่าย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในท้องถิ่นได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ด้วยจิตวิญญาณแห่งความพากเพียรและความทุ่มเทในนวัตกรรม ผนวกกับความเข้าใจตลาดท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง ทำให้ Haier เติบโตอย่างมั่นคงในหลาย ๆ ประเทศทั่วยุโรป

Haier ยังคงเป็นผู้นำในยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องราวความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งของ Haier ในด้านนวัตกรรมและการปรับให้เข้ากับท้องถิ่น โดยมีกลยุทธ์ 3-in-1 เป็นแกนหลัก ซึ่งยังคงขับเคลื่อนให้ทางแบรนด์มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก โดยในปี 2567 นั้น แบรนด์ Haier เป็นที่รับรู้ประมาณ 30% ทั่วทั้งยุโรป

Haier กับพันธกิจ ESG: สร้างอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใส่ใจทุกคน

ความร่วมมือระหว่าง Haier กับ Roland-Garros ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสนามเทนนิส แต่ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นที่ทั้งสองมีร่วมกันในการส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี รับผิดชอบต่อสังคม และสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับชุมชนทั่วโลก

ที่ Roland-Garros นั้น Haier ได้นำแนวคิดด้าน ESG มาจัดแสดงผ่านประสบการณ์ป๊อปอัปที่น่าดึงดูด โดยนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดด้านเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ Haier ยังได้ร่วมมือกับ Open Stade Français จัดโครงการ "Haier Fans Cup" เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ มอบโอกาสพิเศษให้เยาวชนผู้ชนะได้เข้าชมการแข่งขันและพบปะกับอดีตนักเทนนิสหญิงมือหนึ่งของโลกอย่าง Ana Ivanovic อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ Haier ฝรั่งเศส ได้รับการรับรองระดับทองคำในสาขาดูแลพนักงานยอดเยี่ยม (Great Onboarding) จาก Workelo ยังสะท้อนถึงแนวทางที่ยึดมั่นในบุคลากรและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ตอกย้ำความตั้งใจในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

จากบ้านสู่ชุมชน จากเทคโนโลยีที่ยั่งยืนสู่การบริหารจัดการที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง Haier กำลังเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับแบรนด์ระดับโลกอย่างแท้จริง