Infinite Uptime เปิดตัว PlantOS™ ยกระดับความเสถียรของการผลิตในอุตสาหกรรมหนัก ที่งาน Global Steel Dynamics Forum

"ผู้ผลิตในสหรัฐฯ ต้องการระบบที่สามารถขยายขนาดได้ พร้อมความชัดเจนด้านผลตอบแทนจากการลงทุน และ PlantOS™ ของ Infinite Uptime ก็ตอบโจทย์นั้นได้ด้วยผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้ว"
– คุณ Chaitanya Bulusu รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจ ประจำภูมิภาคอเมริกา Infinite Uptime

นิวยอร์ก, 19 มิถุนายน 2568 /PRNewswire/ — ที่งาน Global Steel Dynamics Forum บริษัท Infinite Uptime ได้เปิดตัว PlantOS™ และ Production Outcomes as a Service (POaaS) หรือ บริการระบบซอฟต์แวร์เพื่อผลลัพธ์ทางการผลิต อย่างเป็นทางการในระดับโลก โดย PlantOS™ เป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะด้านการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งมุ่งเน้นการส่งมอบคุณค่าผ่านการเพิ่มความเสถียรของกระบวนการผลิต โดยให้ผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง เช่น ความพร้อมของอุปกรณ์สูงถึง 99.97% และลดการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิตได้สูงสุดถึง 2% สำหรับอุตสาหกรรมหนัก

Infinite Uptime MD & CEO, Raunak Bhinge presenting during the inaugural session.

ความเสถียรของการผลิต คือสมดุลระหว่างตัวชี้วัดและวิธีคิด PlantOS™ ช่วยเสริมศักยภาพให้พันธมิตรบรรลุสมดุลนี้ได้ตั้งแต่ระดับพารามิเตอร์ไปจนถึงทั้งโรงงาน โดย POaaS ของ Infinite Uptime มุ่งเน้นความเสถียรในการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์จริง มีการรับประกันประสิทธิภาพ พร้อมความชัดเจนด้านต้นทุน ผลลัพธ์เหล่านี้ขับเคลื่อนด้วย PlantOS™ ผ่านการผสานสมรรถนะหลายชั้น ได้แก่ การตรวจจับที่ไม่ยึดติดกับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง, AI ที่ออกแบบเฉพาะอุตสาหกรรม และความเชี่ยวชาญของมนุษย์

สำรวจศักยภาพของความเสถียรในการผลิตจาก PlantOS™

PlantOS™ คือแพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างแท้จริง ซึ่งรวบรวมฟังก์ชันหลักไว้ห้าด้าน ได้แก่ การตรวจจับและรับข้อมูล (Sense & Ingest), การบริหารจัดการและตั้งค่า (Administer & Configure), การวินิจฉัยและวิเคราะห์ (Diagnose & Analyze), การดำเนินการและแก้ปัญหา (Act & Resolve) และการทำงานร่วมและบูรณาการ (Collaborate & Integrate) แพลตฟอร์มนี้สามารถดึงข้อมูลจากเซนเซอร์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแรงสั่นสะเทือน เสียง หรืออุณหภูมิ โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์ของบริษัทฯ อย่าง piezoelectric และ MEMS (Micro-electromechanical systems) ซึ่งสามารถทำงานได้แม้ในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว เช่น อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส หรือความเร็วเพียง 2 รอบต่อนาที รวมถึงพื้นที่อุตสาหกรรมที่มีสภาพแวดล้อมหลากหลาย ตั้งแต่กัดกร่อนจนถึงไวไฟ

PlantOS™ ใช้โมเดล AI แนวตั้งที่ออกแบบเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม เช่น เหล็กและปูนซีเมนต์ โดยสามารถคาดการณ์ความผิดปกติล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำถึง 99.97% ซึ่งได้รับการรับรองจากการติดตั้งจริง 53,026 แห่งทั่วโลก จากนั้น Outcome Assistant ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยร่วมวิเคราะห์ จะส่งข้อมูลเชิงลึกตามบทบาทของผู้ใช้งาน เช่น แจ้งเตือนด้านการวินิจฉัยสำหรับวิศวกร หรือข้อมูลผลตอบแทนการลงทุน (ROI) สำหรับผู้บริหารการเงิน เพื่อให้ข้อมูลนำไปสู่การตัดสินใจและการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

PlantOS™ ผสานการสนับสนุนทางไกลตลอด 24 ชั่วโมง ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และ AI ที่ใช้งานได้ง่ายเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยลดช่องว่างด้านทักษะ เพื่อทำให้การนำเทคโนโลยีไปใช้งานเป็นเรื่องง่าย และเสริมสร้างความไว้วางใจในการใช้งาน

สัมผัสมุมมองเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PlantOS™ ได้ในบทสัมภาษณ์ผู้บริหารจาก Frost & Sullivan

PlantOS™ สร้างผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมหนักหลากหลายสาขา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเหล็กที่ Infinite Uptime มีฐานการติดตั้งใหญ่ที่สุด คิดเป็นกำลังผลิตรวมกว่า 84 ล้านตันต่อปี (MTPA) ครอบคลุมโรงงานผลิตเหล็ก 214 แห่งทั่วโลก ซึ่งมีการทำให้เป็นระบบดิจิทัล เฝ้าระวัง และป้องกันความผิดปกติทุกวินาที JSW ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ได้รับประโยชน์จากเวลาเดินเครื่องที่เพิ่มขึ้น 25,842 ชั่วโมง ส่งผลให้สามารถผลิตได้มากขึ้น ลดต้นทุน ยกระดับความยั่งยืน สร้างรายได้หลายล้าน และทำให้ความยืดหยุ่นในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

"Infinite Uptime เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ JSW มาเป็นเวลาสี่ปี โดยมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในโรงงานเหล็ก ปูนซีเมนต์ และสีของเรา"

– คุณ Rishi Shroff ซีอีโอ JSW New Age

ค้นพบเรื่องราวความสำเร็จที่สร้างการเปลี่ยนแปลงของ JSW ด้วย PlantOS™

สัญญาที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ของ Infinite Uptime สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการคืนทุนอย่างรวดเร็ว โดยสามารถส่งมอบคุณค่าที่วัดผลได้ภายใน 6–12 เดือน

หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมว่า PlantOS™ จะช่วยปลดล็อกผลลัพธ์การผลิตของคุณได้อย่างไร เยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Infinite Uptime ได้เลยวันนี้

เกี่ยวกับ Infinite Uptime:

โซลูชันปฏิวัติวงการ PlantOS™ และ Production Outcomes-as-a-Service (POaaS) หรือ บริการระบบซอฟต์แวร์เพื่อผลลัพธ์ทางการผลิต ของ Infinite Uptime ได้ช่วยประหยัดเวลาการผลิตไปแล้ว 83,988 ชั่วโมง สำหรับโรงงาน 801 แห่งใน 26 ประเทศ โดยช่วยให้อุตสาหกรรมหนักสามารถรักษาอัตราความพร้อมของอุปกรณ์ได้ถึง 99.97% และลดการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิตได้สูงสุด 2%

ดูเพิ่มเติม โปรดเข้าชม www.infiniteuptime.com

ติดต่อ: คุณ Kalyan Meduri

รองประธานระดับโลก ฝ่ายการตลาดและพันธมิตร

kalyan.meduri@infinite-uptime.com

รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2714003/Infinite_Uptime_CEO_Raunak_Bhinge.jpg?p=medium600

รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2713857/Infinite_Uptime_Global_Steel_Manufacturers_1.jpg?p=medium600

รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2713856/Infinite_Uptime_Global_Steel_Manufacturers_2.jpg?p=medium600

โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2713858/Infinite_Uptime_Logo.jpg?p=medium600

Infinite Uptime Team with Global Steel Manufacturers.

Infinite Uptime Team with Global Steel Manufacturers.