การแข่งขันซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ประจำปี 2567-2568 พร้อมสาดแสงส่องผู้มากความสามารถอันเป็นที่สุดในแวดวงการทำอาหาร ซึ่งกุมอนาคตของวงการอาหารไว้ในมือ โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้
มิลาน, 5 ก.พ. 2567 /PRNewswire/ — ซานเพลลีกรีโน (S.Pellegrino) ประกาศจัดการแข่งขันเฟ้นหาเชฟดาวรุ่ง ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี (S.Pellegrino Young Chef Academy Competition) ครั้งใหม่ ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกเพื่อเฟ้นหาและให้คำปรึกษาแก่เชฟรุ่นใหม่ผู้มีอนาคตสดใสและมีพรสวรรค์มากที่สุด
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์แบบมัลติมีเดียได้ที่: TBC
การแข่งขันซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เป็นมากกว่าการประกวดทำอาหาร เพราะเมื่อเข้ามามีส่วนร่วมด้วยแล้ว ก็นับเป็นการเข้าร่วมโครงการอันทะเยอทะยานอย่างซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เพื่อใช้อาหารทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เป็นส่วนหนึ่งในชุมชนนานาชาติ และได้รับการสนับสนุนทั้งจากการให้ความรู้ คำปรึกษา การสร้างเครือข่าย และโอกาสในการทำงาน ซึ่งในระหว่างการแข่งขันนี้ ผู้เข้าร่วมประกวดจะได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากเชฟชื่อดังระดับโลก ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตลงบนโต๊ะอาหารได้ พร้อมยกระดับทักษะการทำอาหารไปอีกระดับด้วย
คุณสเตฟาโน โบโลเยเซ (Stefano Bolognese) ผู้อำนวยการหน่วยธุรกิจระหว่างประเทศของซานเพลลีกรีโน กล่าวว่า "ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เป็นชุมชนระดับโลกที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นของซานเพลลีกรีโน ในการลงทุนบ่มเพาะค่านิยมต่าง ๆ เช่น ความยั่งยืน ความรับผิดชอบ ความเสมอภาค ความยืดหยุ่น และความงดงาม เพื่อช่วยกำหนดอนาคตของศาสตร์การทำอาหาร และการแข่งขันนี้ก็เป็นช่องทางหลักที่ทำให้เข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ การแข่งขันครั้งล่าสุดนี้ได้สร้างสถิติใหม่ เพราะมีเชฟเข้าร่วมกว่า 166 คนที่ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นจาก 15 ภูมิภาคที่อยู่ในการแข่งขันนี้ การได้เห็นคนรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์จำนวนมากทุ่มเททำงานหนักด้วยความหลงใหลเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุด และได้เห็นพวกเขาเหล่านี้ร่วมเดินหน้าตามพันธกิจไปกับเรานั้น ทำให้เราภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก สิ่งนี้ทำให้เราเชื่อในโครงการนี้มากขึ้น และเราแทบรอไม่ไหวที่การแข่งขันครั้งใหม่จะเริ่มอีกครั้ง"
การแข่งขันซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ประจำปี 2567-2568 ยินดีต้อนรับเชฟรุ่นใหม่ที่ต้องการท้าทายทั้งตัวเองและความสามารถของตนเองไปพร้อม ๆ กับทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเชฟรุ่นเยาว์ที่มีอายุไม่ถึง 30 ปีลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ที่ http://sanpellegrinoyoungchefacademy.com/the-competition/application-form ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มิถุนายน 2567 โดยส่งสูตรอาหารจานเด็ดที่แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ ทักษะ และความคิดสร้างสรรค์เฉพาะตัวได้ดีที่สุด การแข่งขันครั้งนี้จะมีโรงเรียนสอนทำอาหารอิตาเลียน ALMA เป็นผู้คัดเลือกรอบแรกเหมือนกับการแข่งขันครั้งก่อน ๆ โดย ALMA จะคัดเลือกจนได้รายชื่อเชฟรุ่นเยาว์ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคที่จะจัดขึ้นทั่วโลกจนถึงครึ่งหลังของปี 2567
ผู้ชนะจากแต่ละภูมิภาคจะได้มีโอกาสประชันฝีมือในรอบแกรนด์ ฟินาเล่ (Grand Finale) เพื่อคว้ารางวัลซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ประจำปี 2567-2568 ซึ่งการจะคว้าตำแหน่งนี้มาให้ได้นั้น เชฟจะต้องทำให้คณะผู้ตัดสินรางวัลใหญ่ระดับโลกรู้สึกประทับใจ ซึ่งคณะผู้ตัดสินที่ว่านี้ล้วนเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ โดยจะต้องแสดงให้เห็นความสามารถทางเทคนิคที่ไม่มีใครเทียบได้ เช่นเดียวกับความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริง ผู้ที่จะคว้ารางวัลได้นั้นควรแสดงให้เห็นความเชื่อที่ตนมีอย่างแรงกล้าเกี่ยวกับศาสตร์การทำอาหาร เพื่อโน้มน้าวให้คณะผู้ตัดสินเห็นความสามารถของพวกเขา ในการเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ทั้งนี้ การแข่งขันครั้งล่าสุดมีเชฟเนลสัน เฟรย์ตัส (Nelson Freitas) ผงาดเป็นผู้ชนะ ขึ้นแท่นเชฟอายุไม่ถึง 30 ที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
เพื่อเป็นการยกย่องความสามารถอันโดดเด่นของเนลสัน เฟรย์ตัส ทางสถาบันฯ ยังได้มอบประสบการณ์ในการให้ความรู้ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ในเปรูร่วมกับเชฟชื่อดังระดับโลกอย่างเวอร์จิลิโอ มาร์ติเนซ (Virgilio Martínez) ผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารเซ็นทรัล (Central) ในกรุงลิมา ประเทศเปรู ซึ่งครองอันดับหนึ่งในการจัดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2566 ด้วย โดยเนลสัน เฟรย์ตัส จะได้เพลิดเพลินไปกับโอกาสสุดพิเศษในการพัฒนาวิชาชีพ พร้อมเรียนรู้และรับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ดีที่สุดในที่แห่งนี้
เนลสัน เฟรย์ตัส ได้กล่าวเกี่ยวกับเส้นทางของเขาผ่านการแข่งขันนี้ว่า "การแข่งขันซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งมากครับ เพราะเปิดโอกาสให้ได้สานสัมพันธ์ [และ] แบ่งปันข้อมูล วัฒนธรรม และแน่นอน ความรู้ครับ ผมรู้สึกได้ว่าผมโตขึ้นทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว โดยค้นพบขอบเขตใหม่ ๆ และแรงจูงใจใหม่ ๆ เพื่อสร้างอนาคตวันข้างหน้า สำหรับผมแล้วสิ่งนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ต่างหาก การแข่งขันนี้เป็นเวทีในอุดมคติสำหรับเชฟรุ่นเยาว์ทุกคนที่ต้องการโชว์ผลงานและทดสอบตัวเอง ผมขอแนะนำผู้ที่จะเข้ามาร่วมการแข่งขันนี้ให้นำสิ่งที่คุณรู้สึกผูกพัน สิ่งที่คุณรู้สึกอินเอามาก ๆ มาด้วย เพื่อแสดงสิ่งที่ดีที่สุดของคุณออกมาให้เห็นครับ"
ในระหว่างการแข่งขันนี้ ผู้เข้าร่วมยังจะได้แข่งขันชิงรางวัลเพิ่มอีก 3 รางวัล ซึ่งจะเชิดชูความเชื่อและแนวทางอันหลากหลายของเชฟรุ่นเยาว์ ในการใช้อาหารสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสังคม
• รางวัลซานเพลลีกรีโน สาขาความรับผิดชอบต่อสังคม (S.Pellegrino Social Responsibility Award): โหวตโดยสมาคมร้านอาหารยั่งยืน (Sustainable Restaurant Association) ผู้ดำเนินโครงการฟู้ด เมด กู้ด (Food Made Good) ซึ่งเป็นโครงการความยั่งยืนด้านบริการอาหารที่ใหญ่ที่สุด และเป็นชุมชนระดับโลกในการขับเคลื่อนความยั่งยืนในภาคงานบริการ อาหารที่ชนะรางวัลนี้จะสะท้อนให้เห็นหลักการที่ว่า อาหารจะดีที่สุดเมื่อเป็นผลจากแนวปฏิบัติที่รับผิดชอบต่อสังคม ครอบคลุมทั้งในแง่การจัดหา สังคม และสิ่งแวดล้อม
• รางวัลอควา ปานน่า คอนเนกชัน อิน แกสโทรโนมี อวอร์ด (Acqua Panna Connection in Gastronomy Award): รางวัลนี้มาจากการโหวตของที่ปรึกษา โดยผู้ชนะรางวัลนี้จะรังสรรค์อาหารที่แสดงถึงมรดกทางการทำอาหารของภูมิภาคบ้านเกิดของเชฟ อาหารจานนี้ควรชูแนวทางการทำอาหารแบบดั้งเดิมผสมผสานกับวิสัยทัศน์สมัยใหม่ที่มีความเฉพาะตัว เพื่อเชื่อมโยงอดีตและอนาคตเข้าด้วยกัน
• รางวัลฟู้ด ฟอร์ ธอท อวอร์ด โดยนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส (Fine Dining Lovers Food for Thought Award): มาจากการโหวตของชุมชนนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส (Fine Dining Lovers) ออนไลน์ โดยจะมอบรางวัลนี้ให้กับเชฟรุ่นใหม่ที่รังสรรค์อาหารจานเด่นที่สะท้อนความเชื่อส่วนตัวของตนได้ดีที่สุด
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการริเริ่มนี้ได้ที่ www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com
เกี่ยวกับซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี
ศาสตร์การทำอาหารมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงสังคม รวมถึงสร้างอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนมากขึ้น แต่การจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยผู้ที่มีความสามารถ ด้วยเหตุนี้ ซานเพลลีกรีโนจึงจัดตั้งซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี (S.Pellegrino Young Chef Academy) เพื่อดึงดูด เชื่อมโยง และบ่มเพาะผู้มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารรุ่นใหม่ โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมคนรุ่นใหม่ด้วยโอกาสทางการศึกษา การให้คำปรึกษา และประสบการณ์ รวมทั้งสนับสนุนการแข่งขันที่มีชื่อเสียงในระดับโลก
ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เปิดประตูต้อนรับสมาชิกจากกว่า 70 ประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพรสวรรค์ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยภูมิศาสตร์ ชาติพันธุ์ หรือเพศ โดยเป็นสถานที่ที่เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการอาหารระดับโลก และร่วมกันสร้างชุมชนการทำอาหารที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com/
เกี่ยวกับซานเพลลีกรีโนและอควา ปานน่า
ซานเพลลีกรีโน (S.Pellegrino), อควา ปานน่า (Acqua Panna) และซานเพลลีกรีโน อิตาเลียน สปาร์คลิง ดริงค์ส (Sanpellegrino Italian Sparkling Drinks) เป็นเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศของบริษัท ซานเพลลีกรีโน เอส.พี.เอ. (Sanpellegrino S.p.A.) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้วางจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศ ผ่านสาขาและตัวแทนจำหน่ายใน 5 ทวีป โดยแสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศด้านคุณภาพจากต้นกำเนิด และถ่ายทอดความเป็นอิตาลีออกไปทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความน่าอภิรมย์ สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งนี้ ซานเพลลีกรีโน เอส.พี.เอ. ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2442 และเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของอิตาลี ครอบคลุมทั้งน้ำแร่ เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยไร้แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มอื่น ๆ
ซานเพลลีกรีโนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับโลกใบนี้ ตลอดจนทำงานอย่างมีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นเพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรเหล่านี้จะมีอนาคตที่ยั่งยืน
รูปภาพ –
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/1341607/4260608/SPYCA_Logo.jpg?p=medium600
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business News.
Discover more from ข่าวธุรกิจประเทศไทย
Subscribe to get the latest posts sent to your email.