ลอนดอน, 10 ม.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต ผลการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ (Henley Passport Index) ประจำปี 2567 ได้ประกาศออกมาแล้ว โดยมีพาสปอร์ตที่ทรงอิทธิพลเป็นอันดับหนึ่งทุบสถิติใหม่ถึง 6 ประเทศ ซึ่งเดินทางสู่จุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่า (visa-free) ได้ในจำนวนที่มากเป็นประวัติการณ์เช่นกัน การจัดอันดับดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association หรือ IATA) ผลปรากฏว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 4 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน ครองอันดับหนึ่งร่วมกับญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ขึ้นแท่นพาสปอร์ตที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยพลเมืองของประเทศเหล่านี้เดินทางไปจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้มากถึง 194 แห่งจาก 227 แห่งทั่วโลก ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ครองอันดับหนึ่งในดัชนีดังกล่าว (ซึ่งจัดอันดับหนังสือเดินทางทั่วโลก โดยประเมินตามจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือหนังสือเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่ามาก่อน) มา 5 ปีแล้ว
ดร. คริสเตียน เอช เคลิน (Dr. Christian H. Kaelin) ประธานของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) เปิดเผยว่า แม้แนวโน้มที่พบจากที่ได้จัดอันดับพาสปอร์ตมาตลอด 19 ปีนั้นสะท้อนให้เห็นเสรีภาพในการเดินทางมากขึ้น แต่ความเหลื่อมล้ำในการเดินทางทั่วโลกระหว่างอันดับบน ๆ กับอันดับท้าย ๆ ของตารางก็มากขึ้นเช่นกัน "จำนวนจุดหมายปลายทางโดยเฉลี่ยที่นักเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่านั้นเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 58 แห่งในปี 2549 เป็น 111 แห่งในปี 2567 อย่างไรก็ตาม เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ประเทศที่ติดอันดับสูงสุดเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ได้มากกว่าท้ายตารางอย่างอัฟกานิสถานถึง 166 แห่ง โดยอัฟกานิสถานเดินทางไปจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้เพียง 28 ประเทศเท่านั้น"
เจ้าของสมญานามเสือเอเชียอย่างเกาหลีใต้ตามมาเป็นอันดับ 2 ร่วมกับฟินแลนด์และสวีเดน ซึ่งเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 193 แห่ง ส่วนอีก 4 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างออสเตรีย เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ครองอันดับ 3 เดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ ได้ 192 แห่ง ขณะที่อันดับที่เหลือใน 10 อันดับแรกส่วนใหญ่ตกเป็นของประเทศในแถบยุโรป โดยสหราชอาณาจักรไต่ขึ้นสองอันดับมาอยู่อันดับ 4 เดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 191 แห่ง เทียบกับเพียง 188 แห่งในปีที่แล้ว ผู้ถือหนังสือเดินทางออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ต่างมีอันดับดีขึ้น ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 6 เดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 189 แห่ง ในขณะที่สหรัฐฯ ยังรั้งอันดับ 7 โดยเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้ 188 แห่งโดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า ซึ่งนับมาเป็นเวลาถึงหนึ่งทศวรรษแล้วตั้งแต่ที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริการ่วมกันครองอันดับ 1 ในดัชนีดังกล่าวเมื่อปี 2557
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงเป็นประเทศที่ไต่อันดับในดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ได้มากที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเดินทางไปจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้เพิ่มขึ้นถึง 106 แห่งเมื่อเทียบกับปี 2557 ดันอันดับให้ก้าวกระโดดถึง 44 อันดับ จากอันดับที่ 55 มาอยู่ที่อันดับ 11
ยูเครนและจีนติด 5 อันดับแรกในกลุ่มประเทศที่มีอันดับดีขึ้นมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (เพิ่มขึ้นประเทศละ 21 อันดับ) และทั้งสองประเทศก็ไต่ขึ้น 2 อันดับในปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยูเครนอยู่ในอันดับที่ 32 เดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 148 แห่ง ส่วนจีนอยู่ในอันดับที่ 62 โดยเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าได้ 85 แห่ง (เทียบกับเพียง 44 แห่งในปี 2557) และแม้รัสเซียจะมีจุดหมายปลายทางเพิ่มขึ้นสุทธิ 24 แห่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่คะแนนและอันดับของรัสเซียแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลยนับตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 51 โดยเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้ 119 แห่ง
มิชา เกลนนี (Misha Glenny) นักข่าวและนักเขียนระดับรางวัล ได้แสดงความคิดเห็นในรายงานศึกษาการเดินทางทั่วโลกของเฮนลี่ย์ ประจำไตรมาส 1 ปี 2567 (Henley Global Mobility Report 2024 Q1) ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้พร้อมกับผลการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ครั้งล่าสุด โดยให้คำแนะนำรับปีใหม่นี้ในการเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่มากขึ้นว่า "ในปี 2567 นี้ 40 ประเทศซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของจีดีพี (GDP) โลก จะเปิดหีบเลือกตั้งชี้ชะตาประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ และประเทศมหาอำนาจสำคัญอีกหลายประเทศ แนวโน้มทางการเมืองที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นการขาดความสัมพันธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในภาพรวมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยอเมริกาและยุโรปมีอิทธิพลลดลง ขณะที่ยักษ์ใหญ่ในเอเชียแย่งชิงอำนาจกันเอง"
นอกเหนือจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแนวโน้มสำคัญต่าง ๆ ในเรื่องการเดินทางและการย้ายถิ่นทั่วโลกในปี 2567 แล้ว รายงานดังกล่าวยังมาพร้อมกับงานวิจัยใหม่สุดพิเศษเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างศักยภาพทางเศรษฐกิจกับการเข้าถึงประเทศต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่า และการเปิดกว้างต่อการค้าระหว่างประเทศ การลงทุน และการแลกเปลี่ยนทักษะ ซึ่งศาสตราจารย์ เทรเวอร์ วิลเลียมส์ (Prof. Trevor Williams) อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารลอยด์ส (Lloyds Bank) กล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวมี "ขุมทรัพย์ข้อมูลเชิงลึกที่ฝังซ่อนไว้ เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ต่าง ๆ ในการผลักดันความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก"
Source : เผยผลการจัดอันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลประจำปี 2567 มีอันดับหนึ่งมากถึง 6 ประเทศ
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business News.
Discover more from ข่าวธุรกิจประเทศไทย
Subscribe to get the latest posts sent to your email.